tradingkey.logo

4 แบรนด์ดัง “เครื่องหอมไทย” พลิกโฉมตลาดจีน สู่ความหรูที่มีรากเหง้า

TradingKey
ผู้เขียนYulia Zeng
27 พ.ค. 2025 เวลา 1:46
  • "เครื่องหอมไทย" เริ่มได้รับความนิยมในตลาดพรีเมียมของจีนท่ามกลางการค้นหาแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
  • PANPURI ครองพื้นที่ตลาดด้วยอัตราการค้นหาเพิ่มขึ้นถึง 141% ในกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่
  • THANN, HARNN และ KARMAKAMET ก็ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวจีนอย่างต่อเนื่อง

TradingKey - อุตสาหกรรมเครื่องหอมไทยกำลังเป็นกระแสที่น่าจับตามองในตลาดจีน ขณะที่ผู้บริโภคจีนเลือกสนใจผลิตภัณฑ์ที่มีความหมายและเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมมากกว่าการเลือกแบรนด์ตะวันตกแบบเดิม ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "เครื่องหอมไทย" ที่ส่งผลต่อตลาดพรีเมียมของจีนได้อย่างมั่นคง

ตามข้อมูลจาก iiMedia Research ตลาดเครื่องหอมและสารสกัดกลิ่นในประเทศจีนเมื่อปี 2023 มีขนาดประมาณ 439,000 ล้านหยวน (ราว 219,500 ล้านบาท) และยังคาดว่าจะเติบโตไปถึง 500,000 ล้านหยวน (250,000 ล้านบาท) ภายในปี 2026 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่การทำตลาดระหว่างแบรนด์ระดับโลกกับแบรนด์ท้องถิ่นจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แข่งกันอย่างเข้มข้น

PANPURI แบรนด์เครื่องหอมจากไทยที่เติบโตขึ้นกว่า 141% โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์แนวธรรมชาติ ได้รับแรงผลักดันจากยอดวิวบนแพลตฟอร์มโซเชียลกว่า 59 ล้านวิวในปีนี้ ส่วนใหญ่ได้แก่ผู้ใช้จากเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และกวางตุ้ง นอกจากนี้ยังมีสินค้าอื่นๆ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ได้แก่ THANN, HARNN และ KARMAKAMET ที่ไม่เพียงแต่โดดเด่น แต่ยังตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคนั้นด้วย

THANN ตั้งเป้าที่จะนำเสนอประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์พื้นฐานแบบไทยไปทั่วโลก มีสาขาอยู่ในประเทศต่าง ๆ หลายสิบแห่ง ส่วน HARNN ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับเกียรติให้ถูกกล่าวถึง ซึ่งเน้นสินค้าด้านบอดี้แคร์และสกินแคร์แบบออร์แกนิก

สุดท้ายคือ KARMAKAMET ซึ่งมีเอกลักษณ์ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์โดยนำภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ามาผสมผสาน พร้อมสร้างเรื่องราวที่จะทำให้ผู้ใช้เชื่อมโยงกลิ่นกับความทรงจำที่ผ่านมาได้อย่างลงตัว

ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานว่า "เครื่องหอมไทย" ไม่เพียงแต่จะสามารถแข่งขันได้ในระดับโลก แต่ยังเป็นต้นตำรับในการสร้างประสบการณ์ความร่ำรวยทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ไม่ซ้ำใครแก่ผู้บริโภคชาวจีนนั่นเอง

ตรวจสอบโดยYulia Zeng
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI