TradingKey -ประเทศไทยเคยเป็น "เจ้าตลาดผลไม้ส่งออก" โดยเฉพาะที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญในการสร้างรายได้หลักให้กับเกษตรกรและผู้ส่งออกไทย ทั้งทุเรียน มังคุด และมะม่วง แต่ตอนนี้สัญญาณของความเป็นผู้นำกำลังสั่นคลอน หลังจากที่ยอดส่งออกมะม่วงลดลงถึง 70% ทำให้ไทยต้องตกจากตำแหน่งผู้นำในตลาดนี้
ภายหลังการสูญเสียแชมป์ทุเรียนให้กับเวียดนาม สถานการณ์ของเกษตรกรไทยก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน ราคาทุเรียนตกต่ำอยู่ที่กิโลกรัมละไม่ถึง 100 บาท ในขณะที่กระแสข่าวเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิ์จากเวียดนาม ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าไทยอย่างรุนแรง
ล่าสุด "มะม่วง" ซึ่งเคยเป็นกลุ่มสินค้าชั้นนำ ตอนนี้ได้ร่วงไปอยู่ท้ายสำรวจ Top 5 ผู้ส่งออกไปยังจีน โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดตกลงเหลือเพียงเล็กน้อย ขณะเดียวกัน เวียดนามปรับกลยุทธ์ด้านราคา คุณภาพ และการจำหน่ายแบบรัฐต่อรัฐ ที่ช่วยตอบโจทย์ลูกค้าในจีนได้ดีกว่าไทย
ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 มะม่วงเวียดนามสามารถเข้าไปครองพื้นที่ในตลาดจีนนำเข้าสูงถึง 97% ด้วยการนำเข้าถึงประมาณ 40,700 ตัน สร้างรายได้สูงถึง 28 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีราคาส่งออกเฉลี่ยเพียง 700 เหรียญสหรัฐต่อตัน จึงทำให้สามารถแข่งขันกับราคาของข้าว และยังคงรักษาคุณภาพผลผลิตไว้ได้ดี
ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนความสำเร็จของเวียดนามนั้น รวมถึงตำแหน่งที่ตั้งที่ใกล้ชิด ทำให้ต้นทุนการข运输ต่ำ การจัดส่งรวดเร็ว ช่วยรักษาคุณภาพของสินค้าจากสวนสดใหม่
ดังนั้น หากแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไปโดยไม่มีมาตรการปรับตัว เพื่อเพิ่มช่องทางการแข่งขัน รายได้จากภาคผลไม้ ซึ่งมีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาทต่อปี อาจหายไปอย่างถาวรและสร้างแรงกระเพื่อมต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ.