TradingKey - นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสแรกของปี 2568 ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวที่ระดับ 3.1% ซึ่งเกิดขึ้นจากการลงทุนภาครัฐที่เพิ่มขึ้นถึง 26.3% และการส่งออกบริการที่เติบโตถึง 12.3%
อย่างไรก็ตาม สศช.ยอมรับว่าแม้การส่งออกไทยในไตรมาสแรกจะสูงกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค แต่ยังไม่สามารถวางใจได้ เนื่องจากมีมาตรการกีดกันทางการค้าใหม่ๆ โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ซึ่งมีผลต่อทุกประเทศและส่งผลให้ไทยถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กและอลูมิเนียมในระดับสูง
ตามข้อมูลล่าสุด สศช.ยังได้ปรับลดประมาณการณ์จีดีพีใหม่ โดยคาดว่าจะขยายตัวในช่วง 1.3 – 2.3% สำหรับปีนี้ มีค่ากลางอยู่ที่ประมาณ 1.8%
“หากการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ไม่เป็นไปตามคาด จีดีพีก็อาจหดตัวไปถึงระดับต่ำสุดเพียงแค่ 1.3% เรามั่นใจว่าได้รวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าไปด้วยแล้ว” นายดนุชาย้ำ
สำหรับกลุ่มปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยคือ การใช้จ่ายของรัฐ การบริโภคของประชาชน และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี หากประเมินกลุ่มตลาดต่างชาติจะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะสถานการณ์ิเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงผันผวน
นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ถึงแม้ว่าจีดีพีก่อนหน้านี้จะดูแข็งแกร่ง แต่ต้องตระหนักว่าสถานการณ์โลกกลับกำลังเปลี่ยนแปลง ทั้งสงครามทาง การค้าจากนโยบายของทรัมป์ ความไม่แน่นอนด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ
นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เห็นว่า ปีนี้เป็นปีที่ท้าทายมากสำหรับธุรกิจไทย ยืนยันว่าเห็นความตึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่มีผลกระทบโดยตรงต่อโอกาสในการส่งออกและธุรกิจในประเทศ