tradingkey.logo

ภาษีรถยนต์ของทรัมป์: การเติบโตของงานในสหรัฐฯ เผย ‘เรื่องราวสองด้าน’

TradingKey
ผู้เขียนTony
27 มี.ค. 2025 เวลา 13:23

TradingKey — เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดอนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศภาษี 25% สำหรับรถยนต์นำเข้าที่ผลิตนอกสหรัฐฯ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน โดยอ้างว่านโยบายนี้จะช่วยเร่งการเติบโตของงานในประเทศ อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงมีมุมมองที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนต่อผลกระทบของนโยบายนี้

ทรัมป์วางตำแหน่งภาษีนี้เป็นหัวใจสำคัญในแผนฟื้นฟูการผลิตภายในประเทศและเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการลดภาษี โดยเขาเชื่อว่ามาตรการนี้จะจุดประกายให้เกิดการก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ใหม่ๆ และนำมาซึ่ง “ตัวเลขการจ้างงานที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน”

"มันต้องใช้เวลาเล็กน้อย แต่คุณจะเห็นตัวเลขการก่อสร้างที่ยอดเยี่ยมในช่วงแรก และในที่สุดคุณจะมีคนจำนวนมากที่ผลิตรถยนต์" ทรัมป์กล่าว

เขายังกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า "ถ้าพวกเขามีโรงงานที่นี่ พวกเขาจะดีใจมาก แต่ถ้าไม่มีก็ต้องรีบสร้างขึ้นมา เพราะไม่เช่นนั้นก็ต้องจ่ายภาษี"

สหภาพแรงงาน United Auto Workers (UAW) ยินดีต่อมาตรการนี้ โดยชี้ให้เห็นว่าผู้ผลิตรถยนต์ ตั้งแต่กลุ่มใหญ่ในดีทรอยต์จนถึงระดับโลกอย่าง Volkswagen จะนำ "งานดีๆ" กลับมาที่สหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อคนงานฝ่ายผลิต

เพียงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ Hyundai จากเกาหลีใต้ได้ประกาศการลงทุนประวัติศาสตร์มูลค่า 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในอุตสาหกรรมรถยนต์, เหล็ก, ชิ้นส่วน และภาคพลังงานในสหรัฐฯ ในช่วงสี่ปีข้างหน้า โดยมีเป้าหมายสร้างงานโดยตรง 14,000 ตำแหน่งภายในปี 2028

อย่างไรก็ตาม Cox Automotive ประเมินว่าหากไม่มีการยกเว้นภาษี จะมีการเพิ่มต้นทุนรถยนต์ที่ผลิตในสหรัฐฯ ประมาณ 3,000 ดอลลาร์ และรถที่ผลิตในแคนาดาหรือเม็กซิโกอาจเพิ่มขึ้นถึง 6,000 ดอลลาร์

Cox คาดการณ์ว่าหากภาษีมีผล "เกือบทั้งหมด" ของการผลิตรถยนต์ในอเมริกาเหนืออาจเผชิญกับความขัดข้องภายในกลางเดือนเมษายน โดยอาจลดผลผลิตรายวันลงถึง 20,000 คัน ซึ่งคิดเป็นการลดลงประมาณ 30%

ในขณะเดียวกัน Autos Drive America ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ผลิตรถยนต์ต่างประเทศ เช่น Honda, Toyota และ Volkswagen ได้โต้แย้งว่าภาษีนี้จะเพิ่มต้นทุนการผลิตและต้นทุนสำหรับผู้บริโภค ซึ่งในที่สุดจะลดตัวเลือกสำหรับผู้ซื้อและส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในภาคการผลิตของสหรัฐฯ

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI