tradingkey.logo

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลงเล็กน้อยมาอยู่ใกล้ระดับ 98.50 โดยมีความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนเป็นจุดสนใจ

FXStreet21 ต.ค. 2025 เวลา 1:40
  • ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงที่ประมาณ 98.60 ในช่วงเซสชั่นเอเชียวันอังคาร 
  • ความกังวลว่าการปิดรัฐบาลของสหรัฐฯ จะยืดเยื้อและส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจส่งผลกดดันต่อ DXY 
  • เทรดเดอร์จะติดตามข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนกันยายนของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดในวันศุกร์นี้ 

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งเป็นดัชนีวัดมูลค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) เทียบกับตะกร้าสกุลเงินทั่วโลก 6 สกุล เคลื่อนไหวในแดนลบใกล้ 98.60 ในช่วงเซสชั่นเอเชียวันอังคาร DXY ปรับตัวลดลงท่ามกลางการปิดรัฐบาลของสหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินอยู่ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มขาลงของ DXY อาจถูกจำกัดในระยะสั้น เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเริ่มคลี่คลายลง 

"ดังนั้น ตลาดจึงคาดการณ์ว่าความตึงเครียดจะลดลง" โรดดา กล่าว "อย่างไรก็ตาม ตลาดอาจยังคงมีความวิตกกังวลจนกว่าจะมีการประกาศการถอยกลับอย่างชัดเจน" ไคล์ โรดดา นักวิเคราะห์ตลาดจาก capital.com กล่าว 

การปิดรัฐบาลของสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง การปิดรัฐบาลเข้าสู่วันที่ 21 โดยไม่มีวี่แววว่าจะสิ้นสุด หลังจากที่วุฒิสมาชิกไม่สามารถหาข้อสรุปในการลงคะแนนเสียงได้เป็นครั้งที่ 11 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา การปิดรัฐบาลครั้งนี้เป็นการหยุดชะงักการจัดสรรงบประมาณที่ยาวนานที่สุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ 

ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ กล่าวว่า เขาสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมของเฟดในปลายเดือนนี้ โดยอ้างถึงข้อมูลที่หลากหลายเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดแรงงาน ขณะเดียวกัน ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ อัลแบร์โต มูซาเลม กล่าวว่า เขาสามารถสนับสนุนแนวทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งหากมีความเสี่ยงต่อการจ้างงานเพิ่มขึ้นและอัตราเงินเฟ้อถูกควบคุม 

ผู้ว่าการเฟดคนใหม่ สตีเฟน มิแรน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ย้ำการสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเข้มงวดมากขึ้นในการประชุมเดือนตุลาคมมากกว่าที่บางคนในกลุ่มเพื่อนร่วมงานของเขาเห็นชอบ คำพูดเชิงผ่อนคลายจากเจ้าหน้าที่เฟดอาจทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงในระยะสั้น 

ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนกันยายนของสหรัฐฯ จะเป็นจุดสนใจในวันศุกร์นี้ เนื่องจากการขาดแคลนข้อมูลที่เกิดจากการปิดรัฐบาล โดยคาดว่าทั้งดัชนี CPI ทั่วไปและพื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 3.1% YoY ในเดือนกันยายน สัญญาณใด ๆ ของอัตราเงินเฟ้อที่สูงกว่าที่คาดไว้ในสหรัฐฯ อาจทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นในระยะสั้น 

US Dollar: คำถามที่พบบ่อย

ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นสกุลเงินที่ใช้อย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกา และเป็นสกุลเงินที่ใช้ 'โดยพฤตินัย' ของประเทศอื่น ๆ จำนวนมากที่มีการหมุนเวียนควบคู่ไปกับสกุลเงินท้องถิ่น เป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายกันมากที่สุดในโลก โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 88% ของมูลค่าการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทั่วโลก หรือมีมูลค่าธุรกรรมเฉลี่ย 6.6 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวันตามข้อมูลของปี 2022 หลังสงครามโลกครั้งที่สอง สกุลเงิน USD เข้ามารับช่วงต่อตำแหน่งสกุลเงินสำรองของโลกจากสกุลเงินปอนด์ของอังกฤษที่เป็นในประวัติศาสตร์ใหญ่ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ถูกค้ำด้วยทองคำ จนกระทั่งเกิดข้อตกลง Bretton Woods ในปี 1971 เมื่อมาตรฐานการค้ำด้วยทองคำหมดไป

ปัจจัยเดียวที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐคือนโยบายทางการเงินซึ่งกำหนดโดยธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เฟดมีหน้าที่สองประการ: เพื่อให้บรรลุเสถียรภาพด้านราคา (ควบคุมอัตราเงินเฟ้อ) และส่งเสริมการจ้างงานเต็มรูปแบบ เครื่องมือหลักในการบรรลุเป้าหมายทั้งสองนี้คือการปรับอัตราดอกเบี้ย เมื่อราคาต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้นเร็วเกินไปและอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด ทางเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะหนุนค่าเงิน USD แต่เมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลงต่ำกว่า 2% หรืออัตราการว่างงานสูงเกินไป เฟดอาจเลือกปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อสกุลเงินดอลลาร์

ในสถานการณ์ที่รุนแรงมากจริง ๆ ทาง Federal Reserve ยังสามารถพิมพ์ดอลลาร์ออกมาเพิ่มเติมและออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ได้ การทำ QE เป็นกระบวนการที่เฟดเพิ่มการไหลเวียนของสินเชื่อในระบบการเงินที่ติดขัดอยู่อย่างมาก โดยเป็นมาตรการทางนโยบายที่ไม่ได้เป็นมาตรฐานซึ่งใช้เมื่อสินเชื่อหมดเนื่องจากธนาคารจะไม่ให้กู้ยืมระหว่างกัน (เพราะกลัวคู่สัญญาจะผิดนัดชำระหนี้) ก็เป็นทางเลือกสุดท้ายเมื่อการลดอัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวไม่น่าจะบรรลุผลลัพล์ที่จำเป็น ถือเป็นเครื่องทางเลือกสุดท้ายของเฟดในการต่อสู้กับวิกฤติสินเชื่อที่เกิดขึ้นระหว่างวิกฤตการณ์ทางการเงินครั้งใหญ่ในปี 2008 โดยเกี่ยวข้องกับการที่เฟดพิมพ์เงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นและใช้เงินเหล่านั้นเพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสถาบันการเงินต่าง ๆ การทำ QE มักจะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง

การกระชับเชิงปริมาณ (QT) เป็นกระบวนการย้อนกลับของการทำ QE โดยที่ Federal Reserve จะหยุดซื้อพันธบัตรจากสถาบันการเงินและไม่นำเงินต้นไปลงทุนใหม่จากพันธบัตรที่ถืออยู่เพื่อซื้อใหม่ ซึ่งมักจะเป็นปัจจัยบวกสำหรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI