tradingkey.logo

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐทรงตัวใกล้ระดับ 98.50 ขณะที่ผลตอบแทนและความกังวลเกี่ยวกับเฟดเป็นปัจจัยที่ดึงดูดความสนใจ

FXStreet26 ส.ค. 2025 เวลา 8:30
  • ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอาจฟื้นตัวได้ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนที่ดีขึ้นอาจดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศ
  • ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศปลดผู้ว่าการเฟด ลิซ่า คุก เนื่องจากข้อกล่าวหาเรื่องการฉ้อโกงจำนอง
  • ทรัมป์เตือนว่าจะเรียกเก็บภาษี 200% กับสินค้าจีนหากปักกิ่งปฏิเสธที่จะจัดหามากเน็ตให้กับสหรัฐฯ

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งวัดมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เทียบกับ 6 สกุลเงินหลัก กำลังทรงตัวหลังจากฟื้นตัวจากการขาดทุนรายวันและซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 98.40 ในช่วงชั่วโมงยุโรปของวันอังคาร ดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นอีก เนื่องจากอัตราผลตอบแทนของสหรัฐฯ อาจดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศเข้าสู่พันธบัตรสหรัฐฯ และสินทรัพย์ที่มีสกุลเงิน USD อื่น ๆ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี และ 10 ปี อยู่ที่ 3.70% และ 4.30% ตามลำดับ ณ ขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐประสบปัญหา เนื่องจากความคิดเห็นของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทรัมป์โพสต์จดหมายในโซเชียลมีเดียเมื่อเช้าวันอังคาร โดยระบุว่าเขาจะปลดคุกจากตำแหน่งในคณะกรรมการเฟด อย่างไรก็ตาม คุกกล่าวว่าเธอจะไม่ลาออกและจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ตามรายงานของรอยเตอร์

การออกจากตำแหน่งของผู้ว่าการเฟด คุก จะทำให้ทรัมป์สามารถแต่งตั้งผู้แทนคนใหม่ ซึ่งจะช่วยให้เขาสามารถควบคุมแนวนโยบายของเฟดได้มากขึ้น นอกจากนี้ ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวในงานประชุมแจ็คสัน โฮลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ความเสี่ยงต่อการจ้างงานกำลังเพิ่มขึ้น แต่ยังกล่าวว่าเงินเฟ้อยังคงเป็นภัยคุกคามและการตัดสินใจด้านนโยบายยังไม่แน่นอน ผู้ค้าอาจรอคอยการประกาศข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) รายไตรมาสที่ 2 ของสหรัฐฯ และดัชนีราคาสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นมาตรการเงินเฟ้อที่เฟดชื่นชอบ

ทรัมป์ยังขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษี 200% กับสินค้าจีนหากปักกิ่งปฏิเสธที่จะจัดหามากเน็ตให้กับสหรัฐฯ นอกจากนี้ เขายังเตือนถึงภาษีเพิ่มเติมและการจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงและเซมิคอนดักเตอร์เพื่อตอบโต้ภาษีบริการดิจิทัลที่มุ่งเป้าไปที่บริษัทเทคโนโลยีของอเมริกา

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI