TradingKey - ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในครึ่งหลังของปี 2568 ว่ามีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตของ GDP อยู่ที่ประมาณ 2.3% โดยพิจารณาภายใต้สมมติฐานว่าประเทศไทยจะถูกเก็บภาษีในระดับ 18%
“ชญาวดี ชัยอนันต์” ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษก ธปท. ระบุว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกเป็นไปตามคาด เนื่องจากมีแรงหนุนจากการส่งออกเพื่อเลี่ยงผลกระทบทางภาษี แต่เริ่มมีสัญญาณการชะลอตัวในเดือนมิถุนายน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการส่งออกหมวดเทคโนโลยี ยานยนต์ รวมถึงรายรับและจำนวนการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีหลังมีความไม่แน่นอนอยู่สูง ทั้งเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา และความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยวที่อาจลดลง นอกจากนี้ สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นทางตอนเหนือ แม้ยังไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่ยังต้องติดตามต่อเนื่อง
ทรัมป์หวังที่จะเห็นผลงานเชิงบวกในการเจรจาทางการค้ากับประเทศต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยนั้น ยังขึ้นอยู่กับผลของการเจรจาและมาตรการใหม่ ๆ ที่รัฐบาลจะดำเนินการต่อ ในขณะที่ตัวเลขภาษีนำเข้าสินค้าที่ยังไม่มีความชัดเจนก็สร้างความวิตกกังวลในหมู่นักลงทุนและประชาชน
ทั้งนี้ หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง ธปท. อาจทำการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจใหม่ โดยจะมีประกาศเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ในเดือนตุลาคม ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่าผลกระทบจากมาตรการเก็บภาษีจะเริ่มเห็นได้ตั้งแต่ไตรมาสที่สามและสี่ของปีนี้ รวมถึงในปีหน้า
“เรามองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันสามารถดูแลความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง แต่เดิมทีแล้วอัตราดอกเบี้ยไม่ใช่เครื่องมือเดียวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ” ชญาวดีกล่าว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าจะต้องใช้เครื่องมืออื่น ๆ ที่ภาครัฐจัดทำเพิ่มด้วยเพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ด้วย。