TradingKey – ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่น อิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่ออิหร่าน ในชื่อปฏิบัติการ “Nation of Lions” เป้าหมายหลักคือหลายฐานปฏิบัติการทางทหารเพื่อสกัดแผนพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน สื่ออิหร่านรายงานว่าเกิดเสียงระเบิดกึกก้องทั่วหลายพื้นที่ในเตหะราน ขณะที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศปรับขึ้นสู่ภาวะเตือนภัยสูงสุด
มีข้อมูลว่า ผู้บังคับบัญชากองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) และผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการโจมตีครั้งนี้
ความหวั่นเกรงต่อการหยุดชะงักของการส่งออกน้ำมันดิบอิหร่าน ส่งผลให้น้ำมันพุ่งขึ้นกว่า 10% ขณะที่ราคาทองคำปรับขึ้นเกือบ 1.5% ทะลุเหนือ 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทว่าดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถูกมองเป็นสินทรัพย์หลบภัย กลับไม่ได้รับแรงหนุนอย่างมีนัยสำคัญ
ณ เวลาที่สรุปข้อมูล:
ดัชนี VIX พุ่ง 17.63% สู่ระดับ 22.05 สะท้อนความวิตกกังวลในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ฟิวเจอร์ส S&P 500 ร่วงเกือบ
กราฟ VIX Volatility Index ที่มา: Investing.com
ขณะเดียวกัน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ปรับขึ้นเพียง 0.34% มาปิดที่ 98.23
สหรัฐฯ ชี้แจงว่าไม่ได้ร่วมปฏิบัติการทางทหารกับอิสราเอลในครั้งนี้
นักวิเคราะห์จาก National Australia Bank เห็นว่า สหรัฐฯ กำลังลดบทบาทการครอบงำเชิงภูมิรัฐศาสตร์ เปิดโอกาสให้ชาติอื่นดำเนินนโยบายของตนเองได้มากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์กำลังกลายเป็นแรงปะทะสำคัญ ที่ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาด แม้สินทรัพย์หลบภัยหลายตัวจะปรับขึ้น แต่ดอลลาร์สหรัฐฯ อาจไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่
ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอยังจำกัด upside ของดอลลาร์ หลังจากรายงาน CPI แล้ว ผล PPI เดือนพฤษภาคมของวันพฤหัสฯ บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อไม่ฟื้นตัวแรง และยอดขอรับสวัสดิการว่างงานแรกเข้าเพิ่มขึ้น ส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานเริ่มเย็นตัว
ปัจจัยเหล่านี้นำมาสู่การเพิ่มน้ำหนักเดิมพันว่าทีมเทรดจะคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของ Fed สองครั้งในปี 2025 ลดแรงดึงดูดสินทรัพย์ดอลลาร์
ขณะนี้ ตลาดจับตาการตอบโต้จากอิหร่านอย่างใกล้ชิด นักวิเคราะห์มองว่า ประเด็นสำคัญต่อไปคือ สถานการณ์จะจำกัดอยู่ในวงแคบหรือไม่ เพราะประวัติศาสตร์ชี้ว่า หากความรุนแรงไม่บานปลาย ตลาดมักไม่ตีค่าสถานการณ์เกินจริง