TradingKey – หลังจากสำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐ (BLS) เผยรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนกรกฎาคมซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ย้ำว่า “ภาษีศุลกากรไม่ได้ก่อให้เกิดเงินเฟ้อ” ถือเป็นหลักฐานชัดเจน โดยรัฐมนตรีคลังสหรัฐ สก็อตต์ เบสเซนต์, ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นกรรมการเฟด สตีเฟน มิแรน และผู้มีชื่อเป็นแคนดิเดตประธานเฟดคนต่อไป ต่างออกมาเห็นพ้อง ทำให้ความเป็นไปได้ในการลดดอกเบี้ยแรงขึ้นในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น
รายงานที่เผยเมื่อวันอังคารที่ 12 สิงหาคม ระบุว่า CPI รายเดือนสหรัฐในเดือนกรกฎาคมชะลอลงจาก 0.3% ในเดือนมิถุนายน เหลือ 0.2% ตรงตามคาดการณ์ ขณะที่ CPI รายปีทรงตัวที่ 2.7% ไม่ได้ดีดขึ้นเป็น 2.8% ตามที่ตลาดคาด
ทรัมป์โพสต์ในวันอังคารว่า “ความจริงพิสูจน์แล้วว่า แม้ในเวลานี้ ภาษีศุลกากรก็ไม่ได้สร้างเงินเฟ้อหรือปัญหาอื่นใดให้กับสหรัฐ นอกจากการนำเงินสดจำนวนมหาศาลเข้าสู่คลัง”
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์โกลด์แมน แซคส์รายงานว่า โครงสร้างการแบกรับภาระภาษีศุลกากรกำลังเปลี่ยนแปลง โดยคาดว่าสัดส่วนที่ผู้บริโภครับภาระจะเพิ่มจาก 22% ในเดือนมิถุนายน เป็น 67% ในเดือนตุลาคม ขณะที่ภาระที่บริษัทเอกชนรับจะลดจาก 64% เหลือต่ำกว่า 10% ซึ่งอาจทำให้ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
หลังการเผยข้อมูล CPI เดือนกรกฎาคม ทรัมป์โต้ว่า “ในหลายกรณี ผู้บริโภคแทบไม่ได้จ่ายภาษีศุลกากรเหล่านี้เลย ส่วนใหญ่เป็นบริษัทและรัฐบาล—โดยเฉพาะบริษัทและรัฐบาลต่างชาติ—ที่เป็นผู้จ่าย”
เขายังกล่าวเหน็บโกลด์แมน แซคส์และซีอีโอ David Solomon ว่าเคยทำนายผิดทั้งในเรื่องการตอบสนองของตลาดและผลกระทบของภาษี พร้อมแนะนำให้ Solomon “หานักเศรษฐศาสตร์ใหม่ หรือไม่ก็ไปโฟกัสเป็น DJ แทนการบริหารสถาบันการเงินขนาดใหญ่แห่งนี้”
นอกจากทรัมป์แล้ว “คนใกล้ชิด” ก็แสดงท่าทีสนับสนุนเช่นกัน สตีเฟน มิแรน (Stephen Miran) ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาวและผู้ที่เพิ่งถูกเสนอชื่อเป็นกรรมการเฟด กล่าวชื่นชมว่านโยบายของประธานาธิบดีทำให้เงินเฟ้อโดยรวมมีเสถียรภาพ และ “จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีหลักฐานใดว่าภาษีศุลกากรก่อให้เกิดเงินเฟ้อ หลายคนที่เคยคาดว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ก็พบว่ามันไม่เกิดขึ้น”
เจมส์ บูลลาร์ด (James Bullard) อดีตประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ซึ่งมีชื่อในรายชื่อผู้ถูกพิจารณาเป็นประธานเฟดคนต่อไป กล่าวว่า “ก่อนภาษีศุลกากรเริ่มใช้ 6 เดือน คณะกรรมการ FOMC ได้หยุดแผนการลดดอกเบี้ย และตอนนี้เรามีหลักฐาน 6 เดือนที่ชี้ว่า ภาษีศุลกากรไม่ได้ก่อให้เกิดเงินเฟ้อ ผลกระทบเป็นเพียงการปรับราคาครั้งเดียว”
ในวันเดียวกัน สก็อตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ให้สัมภาษณ์ว่าหากเฟดมีข้อมูลการจ้างงานที่แท้จริง “พวกเขาอาจเริ่มลดดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนมิถุนายนหรือกรกฎาคมแล้ว” โดยเขามองว่า รายงาน CPI เดือนกรกฎาคม “ยอดเยี่ยม” และสิ่งที่ต้องคิดคือ “ควรลดดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐานในเดือนกันยายนหรือไม่”
อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าทุกคนเคยคาดว่าจะเจอเงินเฟ้อฝั่งสินค้า แต่กลับพบเงินเฟ้อฝั่งบริการที่ “แปลก” แทน
ก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์ JPMorgan เตือนว่า เงินเฟ้อฝั่งบริการอาจทำให้ปัญหาเงินเฟ้อแก้ได้ยากขึ้น ขณะที่ สตีเฟน บราวน์ (Stephen Brown) จาก Capital Economics ชี้ว่า รายงาน CPI เดือนกรกฎาคมสร้าง “การเปลี่ยนเรื่องเล่า” อีกครั้ง คือผลกระทบจากภาษีศุลกากรแทบไม่ปรากฏ แต่ราคาบริการที่แข็งแกร่งอาจหมายถึงดัชนี PCE เดือนที่แล้วปรับขึ้นเหนือเป้าหมายอีกครั้ง
บราวน์กล่าวว่า แม้รายงานนี้อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้เฟดเร่งลดดอกเบี้ยเร็วกว่าที่เขาคาด แต่ก็ย้ำมุมมองของเฟดว่า “ตลาดประเมินการผ่อนคลายนโยบายใน 18 เดือนข้างหน้าสูงเกินจริง”
เนื้อหานี้แปลโดย AI ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดจากข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและภาษา จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง และความสมบูรณ์ของเนื้อหาได้ทั้งหมด ในการนำข้อมูลไปใช้ โปรดอ้างอิงจากต้นฉบับ และใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความเข้าใจผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เนื้อหาดังกล่าว