tradingkey.logo

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีกดิ่ง! สมาคมเสนอ 2 แนวทางฟื้นกำลังซื้อและกระตุ้นท่องเที่ยว

TradingKey
ผู้เขียนYulia Zeng
17 ก.ค. 2025 เวลา 5:42
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีกในเดือนมิถุนายน 2568 ลดลงต่อเนื่อง ทำให้มีมูลค่าสูงสุดในรอบ 42 เดือนสะท้อนถึงกำลังซื้อที่ยังเปราะบาง
  • สมาคมผู้ค้าปลีกไทยเสนอ 2 แนวทางเร่งด่วน คือ การอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจและการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นกำลังซื้อ
  • มาตรการดังกล่าวรวมถึงการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม การลดภาษีนำเข้าสินค้า และการจัดจัดมหกรรมลดราคาทั่วประเทศ

TradingKey - สมาคมผู้ค้าปลีกไทยรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ค้าปลีกในเดือนมิถุนายน 2568 ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยทำระดับต่ำสุดในรอบ 42 เดือน ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากำลังซื้อของประชาชนในประเทศยังคงอยู่ในสถานะที่เปราะบาง ทำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนต้องอยู่ในสถานการณ์ Wait & See เพื่อรอความชัดเจนจากนโยบายของรัฐบาลใหม่ พร้อมทั้งได้เสนอแนวทางเร่งด่วนจำนวนสองรายการเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

นายณัฐ วงศ์พานิช ประธานสมาคมฯ ชี้ให้เห็นว่า ภาคค้าปลีกได้รับแรงกดดันจากหลายด้าน เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมือง การบริโภคที่ชะลอตัว รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบต่อศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย

สำหรับสองแนวทางเร่งด่วนที่สมาคมเสนอ ได้แก่:

  1. อัดฉีดเม็ดเงินรัฐอย่างตรงจุด: ควรเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านงบประมาณ เพื่อนำไปใช้ในการกระตุ้นกำลังซื้อทั่วประเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนโครงการ “Easy e-Receipt เฟส 2” เพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการจับจ่ายใช้สอย นอกจากนี้ ยังควรรักษาเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 ให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นสุดปีงบประมาณ
  2. ส่งเสริมสถานการณ์ท่องเที่ยว: โดยเฉพาะผ่าน Thailand Shopping Paradise และมาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มทันที ณ ร้านค้า สำหรับนักท่องเที่ยวที่มียอดซื้อขั้นต่ำ รวมถึงลดภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าแฟชั่นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังสนับสนุนให้มีเขตปลอดภาษี และจัดมหกรรมลดราคาสินค้าทั่วประเทศ เพื่อสร้างบรรยากาศจับจ่าย รวมถึงขยายระยะเวลาวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจากกลุ่มคุณภาพ เช่น รัสเซีย

นายณัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากรัฐบาลดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างจริงจังร่วมกับภาคเอกชน จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่งและยั่งยืนมากขึ้น.

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI