tradingkey.logo

ราคาน้ำมันปรับขึ้น หลังร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จับตาน้ำมันคงคลังสหรัฐฯ

Investing.com27 ก.พ. 2025 เวลา 6:49

Investing.com - ราคาน้ำมันปรับขึ้นในตลาดเอเชียวันนี้ และฟื้นตัวเล็กน้อยจากระดับต่ำสุดในรอบสองเดือนของวันก่อนหน้า ขณะที่นักลงทุนประเมินผลกระทบจากคำขู่ขึ้นภาษีครั้งใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และวิเคราะห์รายงานสินค้าคงคลังน้ำมันของสหรัฐที่ให้สัญญาณแบบหลากหลาย

น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ปรับขึ้น 0.3% แตะระดับ 72.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 09:55 น. (GMT+7) ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 0.4% มาเป็น 68.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

น้ำมันดิบคงคลังสหรัฐลดลง แต่ผลิตภัณฑ์กลั่นกลับล้นตลาด

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) ได้เผยแพร่รายงานประจำสัปดาห์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยแสดงให้เห็นภาพที่ซับซ้อนของตลาดน้ำมันในปัจจุบันซึ่งสะท้อนถึงปัจจัยอุปสงค์และอุปทานที่มีความหลากหลาย

สำหรับสัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ ของสหรัฐลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล ตรงกันข้ามกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะอุปทานที่ตึงตัวขึ้น

ขณะเดียวกัน โรงกลั่นน้ำมันกลับมีอัตราการกลั่นเพิ่มขึ้น 317,000 บาร์เรลต่อวัน โดยโรงกลั่นกำลังดำเนินการที่ 86.5% ของกำลังการผลิต ซึ่งสะท้อนถึงกิจกรรมการกลั่นที่เพิ่มขึ้น

แม้ว่าน้ำมันดิบคงคลังจะลดลง แต่รายงานก็ยังเผยให้เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดของสินค้าคงคลังผลิตภัณฑ์กลั่น โดยน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล แตะระดับ 248.3 ล้านบาร์เรล ขณะที่น้ำมันดีเซลและเชื้อเพลิงกลั่นเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 3.9 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 120.5 ล้านบาร์เรล

การเพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์กลั่นเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า แม้โรงกลั่นจะดำเนินการมากขึ้น แต่ความต้องการผลิตภัณฑ์ปลายทาง เช่น น้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลนั้นอาจไม่เติบโตเท่า ส่งผลให้เกิดภาวะสินค้าล้นตลาด

ข้อมูลที่หลากหลายนี้ทำให้เกิดสถานการณ์ที่ซับซ้อนสำหรับนักลงทุน โดยตลาดมีปฏิกิริยาอย่างระมัดระวัง เนื่องจากราคาน้ำมันเผชิญกับความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกและการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์

ทรัมป์เพิกถอนใบอนุญาตของ Chevron ในเวเนซุเอลา

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เพิกถอนใบอนุญาตของ Chevron Corp (NYSE:CVX) ในการดำเนินกิจการในเวเนซุเอลา โดยให้เหตุผลว่าประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ล้มเหลวในการดำเนินการปฏิรูปการเลือกตั้งและเร่งรัดการส่งตัวผู้อพยพกลับประเทศ

การตัดสินใจดังกล่าว ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2025 ส่งผลให้ Chevron ต้องหยุดการส่งออกน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาประมาณ 240,000 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นกว่าหนึ่งในสี่ของปริมาณการผลิตน้ำมันของประเทศ

มาตรการนี้ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากตลาดคาดการณ์ถึงภาวะอุปทานที่ตึงตัวมากขึ้น

คำขู่ขึ้นภาษีของทรัมป์และการเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันแผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าพลังงานจากเม็กซิโกและแคนาดา โดยสินค้าจากแคนาดาจะถูกเก็บภาษี 10% ขณะที่สินค้านำเข้าจากเม็กซิโกจะถูกเก็บภาษี 25%

แม้ว่าจะยังไม่มีการกำหนดวันที่ชัดเจนสำหรับการดำเนินมาตรการนี้ แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวก็ได้เพิ่มความผันผวนให้กับตลาดน้ำมัน นอกจากนี้ ทรัมป์ยังขู่ที่จะเก็บภาษีสินค้าจากสหภาพยุโรปเพิ่มเติม ซึ่งสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน

ขณะเดียวกัน ความพยายามล่าสุดของทรัมป์ในการเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน ก็ได้สร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมันในทิศทางตรงกันข้าม

หากข้อพิพาทระหว่างรัสเซียและยูเครนได้รับการแก้ไข มันก็อาจทำให้มีการส่งออกน้ำมันรัสเซียเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความกังวลด้านอุปทานและอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลง

ตรวจสอบโดยTony
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI