เงินเอเชียทรงตัว หยวนจีนนิ่งหลังดัชนี PMI อ่อนแอสะท้อนผลกระทบสงครามการค้า

Investing.com — เงินสกุลหลักในเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในกรอบแคบเมื่อวันพุธ โดยเงินหยวนจีนแทบไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากตัวเลขกิจกรรมทางธุรกิจที่อ่อนแอสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ

เงินดอลลาร์ออสเตรเลียทําผลงานได้ดีกว่าสกุลอื่น แม้จะเพียงเล็กน้อย หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคไตรมาสแรกออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ ข้อมูลดังกล่าวจุดประเด็นคําถามเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ธนาคารกลางออสเตรเลียจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม

เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย เช่นเดียวกับสกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ มีกําไรแข็งแกร่งในเดือนเมษายน เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

เงินเยนญี่ปุ่นได้รับประโยชน์มากที่สุดจากแนวโน้มนี้ และทําผลงานได้ดีกว่าสกุลเงินเอเชียอื่นๆ ในเดือนเมษายนเนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น เงินสกุลนี้อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อวันพุธหลังจากข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกที่อ่อนแอ

ดัชนีดอลลาร์และฟิวเจอร์สดัชนีดอลลาร์ทรงตัวในการซื้อขายช่วงเอเชีย แต่มีแนวโน้มที่จะสูญเสียระหว่าง 4.5% ถึง 5% ในเดือนเมษายน

หยวนจีนทรงตัวหลังดัชนี PMI อ่อนแอสะท้อนผลกระทบสงครามการค้า

เงินหยวนจีนเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยเมื่อวันพุธ โดยคู่สกุลเงิน USDCNY เคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 7.2683 หยวน

ข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) อย่างเป็นทางการแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคการผลิตของจีนหดตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายน ในขณะที่กิจกรรมโดยรวมก็อ่อนแอลงท่ามกลางการแลกเปลี่ยนภาษีที่รุนแรงระหว่างปักกิ่งและวอชิงตัน

แม้ว่าข้อมูล PMI ภาคเอกชนยังคงแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นบางประการในกิจกรรมการผลิต แต่แนวโน้มชัดเจน - การส่งออกของจีนกําลังเผชิญกับการลดลงอย่างรวดเร็วในคําสั่งซื้อจากต่างประเทศหลังจากทรัมป์เรียกเก็บภาษี 145% กับสินค้าจีน

ข้อมูล PMI ในวันพุธเน้นย้ําถึงผลกระทบของสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ต่อธุรกิจจีน ซึ่งทําให้เศรษฐกิจเริ่มต้นไตรมาสที่สองของปี 2025 อย่างอ่อนแอ

ข้อมูลที่อ่อนแอยังสร้างแรงกดดันให้ปักกิ่งต้องออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม

เงินหยวนมีแนวโน้มที่จะสูญเสียประมาณ 0.2% ในเดือนเมษายนท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ปักกิ่งถูกมองว่าผ่อนคลายการควบคุมเงินหยวนในช่วงต้นเดือน การกําหนดอัตรากลางที่แข็งแกร่งล่าสุดแสดงให้เห็นถึงความไม่สบายใจกับการอ่อนค่าของหยวนที่มากขึ้น

เงินเอเชียมุ่งสู่การเติบโตในเดือนเมษายน เยนทําผลงานโดดเด่น

ยกเว้นหยวน สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน ส่วนหนึ่งมาจากการซื้อเมื่อราคาลดลงจากการขาดทุนในเดือนมีนาคม รวมถึงการอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องของดอลลาร์

เงินเยนญี่ปุ่นทําผลงานได้ดีที่สุด โดยคู่สกุลเงิน USDJPY ลดลงกว่า 5% ในเดือนนี้ ความสนใจตอนนี้อยู่ที่ธนาคารแห่งญี่ปุ่น ซึ่งคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิมเมื่อสิ้นสุดการประชุมสองวันในวันพฤหัสบดี

คู่สกุลเงิน AUDUSD ของดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 2.4% สําหรับเดือนเมษายน คู่สกุลเงินนี้เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อวันพุธหลังจากข้อมูลเงินเฟ้อไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้

แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อหลักยังคงอยู่ในช่วงเป้าหมายของ RBA แต่ข้อมูลดังกล่าวก่อให้เกิดความไม่แน่นอนบางประการเกี่ยวกับช่วงเวลาและปริมาณที่ธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม

คู่สกุลเงิน USDKRW ของวอนเกาหลีใต้ คู่สกุลเงิน USDSGD ของดอลลาร์สิงคโปร์ และคู่สกุลเงิน USDTWD ของดอลลาร์ไต้หวัน ซื้อขายลดลงระหว่าง 2% ถึง 3% สําหรับเดือนเมษายน

วอนแข็งค่าขึ้นเมื่อวันพุธแม้ว่ารายงานข่าวจะแสดงให้เห็นว่าอัยการกําลังค้นที่พักส่วนตัวของประธานาธิบดียุน ซอกยอลที่ถูกปลดออกจากตําแหน่ง การเคลื่อนไหวนี้อาจนําไปสู่ความวุ่นวายทางการเมืองมากขึ้นในประเทศ

รูปีอินเดียแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยคู่สกุลเงิน USDINR ลดลง 0.1% หลังจากผลงานที่ทรงตัวในเดือนเมษายน

ความตึงเครียดระหว่างอินเดียและปากีสถานเพิ่มขึ้นในเดือนนี้หลังจากการโจมตีที่ร้ายแรงที่แหล่งท่องเที่ยวในแคชเมียร์ของอินเดีย ซึ่งนิวเดลีกล่าวหาว่าอิสลามาบัดอยู่เบื้องหลัง

ปากีสถานกล่าวเมื่อวันพุธว่ามี "ข่าวกรองที่น่าเชื่อถือ" ว่าอินเดียวางแผนที่จะดําเนินการทางทหารต่อประเทศในอีก 24 ถึง 36 ชั่วโมงข้างหน้า โดยเตือนไม่ให้ดําเนินการดังกล่าว

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน