ดอลลาร์แข็งค่าในช่วงสิ้นสัปดาห์ที่ผันผวน; ปอนด์อ่อนค่าแม้ยอดค้าปลีกเติบโต

Investing.com — ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ท้ายสัปดาห์ที่ผันผวน ได้แรงหนุนจากความหวังที่จะมีการประนีประนอมในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งเป็นสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ณ เวลา 15:10 น. ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักอื่นๆ 6 สกุล ปรับตัวขึ้น 0.3% สู่ระดับ 99.415 หลังจากฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากระดับต่ําสุดในรอบสามปีในการซื้อขายก่อนหน้านี้

ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากความเป็นไปได้ในการประนีประนอมทางการค้า

ดอลลาร์ซื้อขายในแดนบวก ได้รับแรงหนุนจากรายงานของ Bloomberg ที่ระบุว่ารัฐบาลจีนกําลังพิจารณายกเว้นภาษีนําเข้า 125% สําหรับสินค้าสหรัฐบางรายการ ขณะที่ประเทศกําลังเผชิญกับต้นทุนทางเศรษฐกิจที่สูงจากสงครามการค้า

สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้แสดงความเห็นเมื่อต้นสัปดาห์ ที่บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ในการเจรจาการค้ากับจีน โดยกล่าวว่าข้อตกลงที่อาจเกิดขึ้นอาจนําไปสู่การลดภาษีที่ "มีนัยสําคัญ"

นอกจากนี้ Wall Street Journal รายงานเมื่อวันพุธว่า รัฐบาลทรัมป์กําลังพิจารณาลดภาษีนําเข้าสินค้าจากจีนเพื่อลดความตึงเครียดทางการค้า

"แม้ว่าผลประโยชน์ของจีนอาจเป็นแรงผลักดันให้เกิดพัฒนาการเหล่านี้ แต่นักลงทุนก็ยังคงยินดีกับความยืดหยุ่นที่เกิดขึ้น" นักวิเคราะห์จาก ING กล่าวในบันทึก

สหรัฐและจีนได้เข้าสู่การแลกเปลี่ยนภาษีที่รุนแรงในเดือนนี้ โดยทรัมป์ได้เรียกเก็บภาษีสูงกับปักกิ่งในความพยายามที่ชัดเจนเพื่อลดการขาดดุลการค้าขนาดใหญ่ของวอชิงตัน

"บทต่อไปที่สําคัญคือการดูว่าความผันผวนทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจในโลกความเป็นจริงหรือไม่ โดยเฉพาะในตลาดแรงงานสหรัฐ จะมีข้อมูลการจ้างงานสหรัฐจํานวนมากที่เผยแพร่ในสัปดาห์หน้า และการเสื่อมถอยใดๆ ในที่นี้อาจกระตุ้นให้เกิดการขาดทุนของดอลลาร์อีกรอบ" ING เพิ่มเติม

ECB จะลดดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนหรือไม่?

ในยุโรป EUR/USD ซื้อขายลดลง 0.3% สู่ระดับ 1.1361 โดยเงินสกุลเดียวถอยตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบกว่าสามปีที่เห็นในช่วงต้นสัปดาห์

โอลลี เรห์น ผู้กําหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่ามีโอกาสที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน เนื่องจากการคาดการณ์ใหม่ของ ECB "อาจ" ชี้ให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อลดลงมากเกินไป

ECB ได้ลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่เจ็ดในรอบปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเตือนว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากภาษีของสหรัฐ ซึ่งเสริมการคาดการณ์ว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม

ในทางตรงกันข้าม ธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมครั้งล่าสุด โดยผู้กําหนดนโยบายอ้างถึงความไม่แน่นอนที่เกิดจากนโยบายการค้าที่ผันผวนของรัฐบาลทรัมป์

"การปรับตัวขึ้นเล็กน้อยของตลาดหุ้นสหรัฐอาจดึง EUR/USD กลับไปที่ระดับ 1.1250 และอาจเป็นที่นั่น - 1.1250 - ที่ผู้ขายดอลลาร์ 'เชิงโครงสร้าง' ทั้งหมดอาจกลับมาอีกครั้ง หากคุณเชื่อว่าการทําลายระเบียบระหว่างประเทศที่อิงกฎเกณฑ์ของวอชิงตันได้สร้างความเสียหายต่อสถานะของดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสํารองชั้นนําอย่างถาวร" ING กล่าว

GBP/USD ลดลงเล็กน้อย 0.3% สู่ระดับ 1.3299 แม้จะมีการเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกที่เป็นบวก

ยอดค้าปลีกของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมีนาคมเพียงเดือนเดียว หลังจากการเติบโต 0.7% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ได้รับการปรับลดลง ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่ไม่คาดคิดหลังจากนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะมีการลดลงเมื่อเทียบเป็นรายเดือนที่ 0.3%

สําหรับไตรมาสแรกโดยรวม ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.6% ซึ่งเป็นการอ่านที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบสี่ปี

อย่างไรก็ตาม พายุกําลังก่อตัว และแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารแห่งอังกฤษ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าเขาให้ความสําคัญกับแรงกระแทกที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับการเติบโตจากภาษีนําเข้าของทรัมป์และมาตรการตอบโต้จากประเทศอื่นๆ

เยนอ่อนค่าแม้มีการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ

ในเอเชีย USD/JPY ซื้อขายเพิ่มขึ้น 0.6% สู่ระดับ 143.44 แม้ว่าข้อมูลจะแสดงว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของโตเกียวเพิ่มขึ้นเป็น 3.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นจาก 2.4% ในเดือนมีนาคม และสูงกว่าฉันทามติของตลาดที่ 3.2% ซึ่งขับเคลื่อนโดยการเพิ่มขึ้นของราคาอย่างกว้างขวางในบริการและที่อยู่อาศัย

การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของอัตราเงินเฟ้อทําให้มุมมองอัตราดอกเบี้ยสําหรับเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นซับซ้อนขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลกที่เกิดจากภาษีของทรัมป์

USD/CNY ซื้อขายลดลงเล็กน้อยที่ 7.2866 ในการซื้อขายที่ทรงตัว หลังจากรายงานของ Bloomberg ที่ระบุว่ารัฐบาลจีนกําลังพิจารณายกเว้นภาษีนําเข้า 125% สําหรับสินค้าสหรัฐบางรายการ

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน