Tata, Sona นําการขาดทุนของหุ้นรถยนต์อินเดียจากการเปิดรับภาษีของทรัมป์

Investing.com- หุ้นรถยนต์อินเดียร่วงลงในวันพฤหัสบดีหลังจากที่ทรัมป์เรียกเก็บภาษี 25% สําหรับการนําเข้ารถยนต์ทั้งหมด โดย Tata Motors และ Sona ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับคู่แข่ง

ทาทา มอเตอร์ส จํากัด (NSE:TAMO) (NYSE:TTM) ซึ่งหน่วย Jaguar Land Rover ขายรถยนต์หรูหราในสหรัฐอเมริกา ลดลงเกือบ 5% ในการซื้อขายช่วงเช้ามืด ในขณะที่ Sona BLW Precision Forgings (NSE:SONB) ซึ่งจัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ให้กับผู้ผลิตรายใหญ่ของสหรัฐฯ หลายราย รวมถึงฟอร์ดและเทสลา (NASDAQ:TSLA) ลดลง 4% Samvardhana Motherson International Ltd (NSE:SAMD) ซึ่งส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ ลดลงเกือบ 3%

Elon Musk ซีอีโอของ Tesla กล่าวว่าภาษีจะส่งผลกระทบต่อ Tesla "อย่างมีนัยสําคัญ" เนื่องจากนําเข้าส่วนประกอบสําหรับหลายรุ่น

ไอเชอร์ มอเตอร์ส จํากัด (NSE:EICH) ซึ่งแบรนด์ Royal Enfield ขายรถจักรยานยนต์บางคันในสหรัฐอเมริกา ลดลง 0.5% ในขณะที่ Hyundai Motor (OTC:HYMTF) India Ltd (NSE:HYUN) ลดลง 0.1%

ผู้ผลิตรถยนต์อินเดียที่มีความเสี่ยงในประเทศเป็นหลักมีความยืดหยุ่น โดยมี Mahindra&Mahindra Ltd. (NSE:MAHM) ลดลง 0.3% ในขณะที่ Maruti Suzuki India Ltd. (NSE:MRTI) เพิ่มขึ้น 0.6% หุ้นอินเดียในวงกว้างก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยมี ดัชนี Nifty 50 เพิ่มขึ้น 0.4%

การขาดทุนใน Tata และ Sona เกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์กําหนดภาษี 25% สําหรับรถยนต์ที่ไม่ใช่ที่ผลิตในอเมริกาทั้งหมดที่ขายในสหรัฐฯ โดยภาษีของเขายังขยายไปถึงชิ้นส่วนรถยนต์ด้วย

ภาษีซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นให้แบรนด์ต่างๆ สร้างโรงงานผลิตเพิ่มเติมในสหรัฐอเมริกา

แต่ในระหว่างนี้ ภาษีศุลกากรคาดว่าจะผลักดันต้นทุนรถยนต์ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจกัดกร่อนความต้องการรถยนต์ใหม่ลงไปอีก ผู้ผลิตรถยนต์ต่างประเทศ เช่น โตโยต้า (NYSE:TM), Hyundai Motors และ Honda (NYSE:HMC) ทั้งหมดขาดทุนอย่างมากในวันพฤหัสบดีหลังจากการประกาศของทรัมป์

ทรัมป์ยังกําหนดกําหนดภาษีซึ่งกันและกันอย่างน้อย 15 ประเทศในวันที่ 2 เมษายน

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน