TradingKey - เมื่อวันศุกร์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้า 100% สำหรับสินค้าจีน ส่งผลให้เกิดการเทขายคริปโทเคอร์เรนซีครั้งประวัติการณ์ เนื่องจากมูลค่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซีทั่วโลกลดลง 10.27% ภายใน 24 ชั่วโมง ต่ำกว่าระดับ 4 ล้านล้านดอลลาร์
ในฐานะตัวชี้วัดตลาด บิตคอยน์ร่วงลงเกือบ 15% ระหว่างวัน แตะระดับต่ำกว่า 110,000 ดอลลาร์ชั่วคราว แม้จะฟื้นตัวสู่ระดับประมาณ 111,000 ดอลลาร์ในเวลาต่อมา แต่ยังลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากจุดสูงสุดประวัติการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 126,250 ดอลลาร์
ในขณะเดียวกัน อีเทอร์เนียมลดลงมากกว่า 16% ในจุดสูงสุด โดยโทเคนบางตัวรวมถึง ADA, Solana และ BNB บันทึกการลดลง 20-30% อัลทคอยน์หลักอย่าง XRP และ Dogecoin ประสบกับการเทขายที่รุนแรงยิ่งขึ้น ด้วยการลดลงสูงสุดเข้าใกล้ 40% อย่างไรก็ตาม โทเคนหลายตัวฟื้นตัวบางส่วนในเวลาต่อมา
(ที่มา: Coinbase)
ตามข้อมูลจาก Coinglass มีผู้ถูกเทขาย 1.65 ล้านคนทั่วโลกในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าเท่ากับ 19,274 ล้านดอลลาร์ คำสั่งเทขายที่ใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นบน Hyperliquid-ETH-USDT มูลค่า 203 ล้านดอลลาร์
ทรัมป์ กล่าวบน Truth Social ว่า จีนได้ "จับตลาดโลกเป็นตัวประกัน" โดยผูกขาดทรัพยากรสำคัญเช่น แร่หายาก ซึ่งถือเป็น "การต่อต้านทางการค้าอย่างรุนแรง" และยืนยันการเรียกเก็บภาษีนำเข้า 100% สำหรับสินค้าจีนทั้งหมด เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ในขณะเดียวกันก็ยกเลิกการประชุมกับผู้นำจีน แม้เขาจะกล่าวต่อมาว่าภาษีอาจถูกยกเลิกได้หากจีนเปลี่ยนท่าทีก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน แต่ความตื่นตระหนกในตลาดได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วแล้ว
"วันที่โหดร้ายมาก" รัม อาลูวาเลีย (Ram Ahluwalia) ผู้ก่อตั้งบริษัทลงทุน Lumida Wealth กล่าว "ข่าวจากทรัมป์รวมกับสภาพตลาดที่ 'ซื้อมากเกินไป' ส่งผลให้เกิดการลดลงอย่างรุนแรง"
"กลุ่มอัลทคอยน์ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง" ซาฮีร์ เอบติการ์ (Zaheer Ebtikar) ผู้ก่อตั้งและซีไอโอของกองทุนเฮดจ์ฟันด์คริปโต Split Capital กล่าว "เราอยู่ในระดับที่ไม่เคยเห็นมากกว่า 1 ปีในแง่ของอัลทคอยน์ มีการรีเซ็ตเลเวอเรจทั้งหมดและตลาดถูกรบกวน"
เนื้อหานี้แปลโดย AI ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดจากข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและภาษา จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง และความสมบูรณ์ของเนื้อหาได้ทั้งหมด ในการนำข้อมูลไปใช้ โปรดอ้างอิงจากต้นฉบับ และใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความเข้าใจผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เนื้อหาดังกล่าว