แคธี วูด คาดการณ์ว่า Bitcoin แตะจุดต่ำสุดแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเข้าซื้อแล้วหรือยัง? วิธีการซื้อ BTC?
พอดแคสต์ AI
แม้ Bitcoin จะมีการลดลงถึง 36% ในเดือนตุลาคม 2568 แต่ก็มีสัญญาณว่าอาจถึงจุดต่ำสุดแล้ว โดยแนวรับที่ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นจุดเข้าซื้อที่น่าพิจารณา การซื้อ Bitcoin สามารถทำได้ผ่านแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ (CEXs) หรือแบบกระจายอำนาจ (DEXs) และ Spot Bitcoin ETF ในตลาดหลักทรัพย์ ผู้เริ่มต้นควรเลือกแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ ฝากเงินอย่างปลอดภัย และทำความเข้าใจประเภทคำสั่งซื้อ (Market/Limit) รวมถึงบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบ หลีกเลี่ยงการกู้ยืมเพื่อลงทุน และระมัดระวังการหลอกลวงหลังการซื้อขาย
ถึงเวลาซื้อบิตคอยน์ตอนที่ราคาย่อตัวลงแล้วหรือยัง?
TradingKey - นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568, Bitcoin ( BTC) มีระดับการลดลงสูงสุด (drawdown) ถึง 36% โดยราคาเข้าใกล้ระดับ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ชั่วขณะ ปัจจุบัน แม้จะมีการดีดตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ผลการดำเนินงานด้านราคาของ Bitcoin ยังคงซบเซา โดยเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 85,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
เกี่ยวกับผลการดำเนินงานด้านราคา Bitcoin ที่อ่อนแอลง คุณ Cathie Wood ผู้ก่อตั้ง ARK Invest กล่าวในการสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมว่า "ในระหว่างเหตุการณ์ Flash Crash เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม Bitcoin เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีสภาพคล่องสูงสุดในบรรดาสินทรัพย์คริปโททั้งหมด และเนื่องจากข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้รับการย่อยแล้ว, ตลาดอาจจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว "
กราฟราคา Bitcoin, ที่มา: TradingView
ตามข้อมูลจาก Jasper De Maere นักวางกลยุทธ์การเทรดที่ Wintermute ระบุว่า Bitcoin อาจจะยังไม่ถึงจุดต่ำสุด แต่ก็อยู่ในภาวะขายมากเกินไปในระยะสั้นแล้ว จากโครงสร้างทางเทคนิคและมุมมองทางจิตวิทยา ระดับ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นจุดเข้าซื้อที่มีมูลค่าสูงและน่าพิจารณาสำหรับการเก็งกำไร
คำถามที่ตามมาคือ: แพลตฟอร์มใดบ้างที่อนุญาตให้ซื้อ Bitcoin ได้? จะสามารถซื้อ BTC ได้อย่างไร? หากคุณเป็นมือใหม่ ควรซื้อ Bitcoin อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพได้อย่างไร? บทความนี้จะตอบคำถามเหล่านี้อย่างครอบคลับ เพื่อช่วยให้คุณลงทุนใน Bitcoin ได้อย่างปลอดภัยและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไป
คุณเข้าใจบิตคอยน์อย่างถ่องแท้หรือไม่?
ก่อนหน้านี้ ท่านอาจเคยได้ยินหรือแม้กระทั่งเคยศึกษา Bitcoin มาเป็นอย่างดี แต่ก็อาจยังไม่เข้าใจอย่างแท้จริง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดของเครือข่าย Bitcoin และอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ มีจำนวนมากของ "Bitcoin รูปแบบต่างๆ" ซึ่งก่อให้เกิดความสับสนอย่างกว้างขวางในหมู่หลายๆ คน โดยเฉพาะผู้มาใหม่ ทำให้ยากต่อการแยกแยะระหว่างตัวเลือกที่ถูกต้องและไม่ถูกต้อง
โดยหลักการแล้ว Bitcoin สามารถจำแนกได้เป็นสามประเภท: (1) Bitcoin ดั้งเดิมที่ออกโดย Satoshi Nakamoto บนเครือข่าย Bitcoin;Bitcoin ดั้งเดิม; (2) Wrapped Bitcoin ที่ออกบนเครือข่ายที่ไม่ใช่ Bitcoin;Wrapped Bitcoin;(3) กองทุนSpot Bitcoin ETF ที่มีการกำกับดูแล.
หมวดหมู่ | คำจำกัดความ | ชื่อและผู้ออก | ปริมาณ |
Bitcoin ดั้งเดิม | สินทรัพย์หลักที่มีอยู่บนเมนเน็ตของ Bitcoin | BTC (Satoshi Nakamoto) | 21 ล้านเหรียญ |
Wrapped Bitcoin | Bitcoin ดั้งเดิมในรูปแบบโทเค็น ที่ 'ห่อหุ้ม' บนเชนอื่น ๆ (เช่น Ethereum, BNB Chain) โดยทั่วไปจะผูกติดอยู่กับ BTC ดั้งเดิมในอัตรา 1:1 | -WBTC (BitGo) -renBTC (Ren Protocol) -tBTC (Keep Network / Threshold Network) -iBTC (Interlay) -BTCB (Binance) | ผันผวนตามความต้องการของตลาด; ปริมาณไม่คงที่ แต่จะไม่เกิน 21 ล้านเหรียญ |
Spot Bitcoin ETF | ออกโดยบริษัทจัดการสินทรัพย์ ถือครอง Bitcoin จริงเป็นสินทรัพย์อ้างอิง แต่ไม่ใช่ในอัตรา 1:1 โดย Bitcoin หนึ่งเหรียญจะถูกแบ่งออกเป็นหลายๆ หน่วยลงทุน | -IBIT (BlackRock) -FBTC (Fidelity) -GBTC (Grayscale) -ARKB (Ark Invest & 21Shares), -BITB (Bitwise) -BRRR (Valkyrie), HODL (VanEck) -BTCW (WisdomTree) -BTCO (Invesco Galaxy) -DEFI (Hashdex) -EZBC (Franklin Templeton) | ผันผวนตามความต้องการของตลาด |
มีช่องทางใดบ้างในการซื้อบิตคอยน์?
เมื่อผู้คนพูดถึงการซื้อ Bitcoin พวกเขามักจะหมายถึงการซื้อ Bitcoin แบบ Spot ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากก่อนปี 2017 เนื่องจากในช่วงแรกเริ่ม ความผันผวนของราคา Bitcoin มีนัยสำคัญเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin กลับลดลงอย่างมาก ไม่สามารถตอบสนองความต้องการความผันผวนของตลาดได้ ด้วยเหตุนี้ กระดานแลกเปลี่ยนหลัก ๆ จึงได้พัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ฟิวเจอร์สอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมในชื่อ "สัญญา" รวมถึง Delivery Futures และ Perpetual Contracts
แล้วการเทรดแบบ Spot, สัญญา Delivery Futures และ Perpetual Contracts มีความแตกต่างกันอย่างไร และแต่ละประเภทเหมาะกับใคร รายละเอียดมีดังนี้:
ประเภท | คำจำกัดความ | วันหมดอายุ | เลเวอเรจ | เหมาะสำหรับ | ลักษณะความเสี่ยง |
สปอต (Spot) | Bitcoin ที่ออกโดย Satoshi Nakamoto; เป็นการถือครองสินทรัพย์จริง | ไม่มีวันหมดอายุ | ไม่มีเลเวอเรจ | นักลงทุนระยะยาว, ผู้ที่ต้องการถือครองสินทรัพย์จริง | ต้องดูแลรักษาสินทรัพย์ด้วยตนเอง |
สัญญา Delivery Futures | สัญญาที่จะส่งมอบ Bitcoin ตามราคาที่ตกลงกันในวันที่กำหนดในอนาคต | มีวันหมดอายุที่แน่นอน เช่น รายสัปดาห์ปัจจุบัน, สัปดาห์หน้า, รายไตรมาสปัจจุบัน, ไตรมาสหน้า | สามารถใช้เลเวอเรจได้ โดยทั่วไป 1-100 เท่า | นักเก็งกำไรระยะกลางถึงสั้น, ผู้ที่ต้องการป้องกันความเสี่ยง | ต้องเผชิญกับการบังคับชำระบัญชี/การชำระราคาเมื่อถึงวันหมดอายุ แต่ก็สามารถปิดสถานะได้เองก่อนครบกำหนด |
สัญญา Perpetual Contract | สัญญาที่ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เว้นแต่จะถูกชำระบัญชีหรือปิดสถานะด้วยตนเอง | ไม่มีวันหมดอายุ | สามารถใช้เลเวอเรจได้ โดยทั่วไป 1-100 เท่า | นักเก็งกำไรที่ชอบการซื้อขายระยะสั้นและต้องการเลเวอเรจสูง | อัตรา Funding (Funding rates) อาจเป็นต้นทุนที่มีนัยสำคัญ และมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกชำระบัญชี |
แพลตฟอร์มใดบ้างที่สามารถใช้ในการซื้อ Bitcoin?
Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าตลาดสูงสุดและสภาพคล่องที่ดีที่สุด แพลตฟอร์มเกือบทั้งหมดที่ให้บริการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมักจะแสดงทั้งสัญญา Bitcoin แบบ Spot และ Futures ทำให้สามารถซื้อได้บนแพลตฟอร์มเหล่านี้
หากคุณต้องการซื้อ Bitcoin ดั้งเดิม (Native Bitcoin) หรือ Wrapped Bitcoin คุณอาจพิจารณาแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลโดยเฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่แบ่งออกเป็นสองประเภท: ประเภทแรกคือแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ (CEXs) ซึ่งรวมถึง Binance (BNB), Coinbase (COIN), Bybit และอื่นๆ; ประเภทที่สองประกอบด้วยแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (DEXs) ซึ่งส่วนใหญ่ได้แก่ Uniswap (UNI), Hyperliquid (HYPE), ASTER และอื่นๆ
สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ Bitcoin Spot ETF ไม่มีให้บริการบนแพลตฟอร์มดังกล่าว แต่มีให้บริการในตลาดหลักทรัพย์ โดยส่วนใหญ่อยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึง NYSE Arca, Cboe BZX และ NASDAQ นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ Toronto ของแคนาดา และ Cboe Canada ก็ได้มีการจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องเช่นกัน ดังนั้น Bitcoin จึงสามารถซื้อผ่านแพลตฟอร์มเหล่านี้ได้ด้วย
ผู้เริ่มต้นจะซื้อบิตคอยน์ออนไลน์อย่างปลอดภัยได้อย่างไร?
ก่อนที่ผู้ใช้ใหม่จะทำการซื้อ Bitcoin พวกเขาจะต้องเลือกแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือและตรงกับความต้องการในการซื้อขายเสียก่อน เนื่องจากขั้นตอนการดำเนินงานในแต่ละแพลตฟอร์มส่วนใหญ่มีความคล้ายคลึงกัน เราจะยกตัวอย่างแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดในโลก Binance เป็นตัวอย่างเพื่อแสดงกระบวนการซื้อขายที่เฉพาะเจาะจง
ขั้นตอนที่หนึ่ง: ลงทะเบียนบัญชีและยืนยันตัวตน
- ลงทะเบียนบัญชีโดยใช้อีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือ
- อัปโหลดเอกสารระบุตัวตนและภาพถ่ายเซลฟี่เพื่อดำเนินการยืนยันตัวตน (KYC) ให้สมบูรณ์
ขั้นตอนที่สอง: ฝากเงิน ท่านสามารถโอนเงินเข้าบัญชีแลกเปลี่ยนของท่านได้หลายวิธี เช่น การโอนเงินผ่านธนาคาร, บัตรเครดิต หรือบริการชำระเงินของบุคคลที่สาม (อาทิ LINE Pay, Apple Pay, PayPal)
ขั้นตอนที่สาม: ซื้อ Bitcoin
ไปที่หน้า 'Trade' หรือเลือก 'BTC' โดยตรง จากนั้นป้อนจำนวนที่ต้องการ เลือกประเภทคำสั่งซื้อระหว่าง 'Market Order' หรือ 'Limit Order' แล้วจึงกดปุ่มซื้อ
ข้อพึงสังเกตในการเข้าซื้อบิตคอยน์?
การซื้อ Bitcoin โดยทั่วไปมีสามขั้นตอน ได้แก่ ก่อนการเทรด (pre-trade) ระหว่างการเทรด (in-trade) และหลังการเทรด (post-trade) แต่ละขั้นตอนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากข้อผิดพลาดในการดำเนินงานหรือการตกหลุมพรางอาจนำไปสู่การขาดทุนได้ง่าย
ก่อนการเทรด
ประการแรก การบริหารจัดการเงินทุนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณลงทุนเฉพาะเงินทุนที่สามารถนำมาใช้จ่ายได้ และขนาดของการลงทุนอยู่ในระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้สำหรับความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ไม่ควรกู้ยืมเงินเพื่อซื้อ Bitcoin อย่างยิ่ง เนื่องจากผู้เริ่มต้นมักขาดประสบการณ์และมีความเสี่ยงสูงที่จะขาดทุน หลังจากขาดทุนแล้ว พวกเขาอาจถูกชักจูงให้กู้ยืมเพิ่ม ซึ่งจะนำไปสู่วัฏจักรเลวร้ายที่ค่อย ๆ ทำให้เกิดปัญหาทางการเงินที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ประการที่สอง ควรเลือกแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ถูกกฎหมาย และมีขนาดใหญ่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียสินทรัพย์เนื่องจากปัญหาด้านกฎระเบียบหรือแม้แต่การฉ้อโกง
ระหว่างการเทรด
หลังจากเตรียมพร้อมสำหรับการเทรดแล้ว การทำความเข้าใจขั้นตอนการดำเนินงานที่เฉพาะเจาะจงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการพลาดโอกาสหรือการขาดทุนที่ไม่จำเป็นเนื่องจากความไม่คุ้นเคยกับกระบวนการ ผู้เริ่มต้นจำนวนมากมักทำผิดพลาดพื้นฐานได้ง่าย ๆ คือตั้งใจซื้อแต่สุดท้ายกลับขาย หรือตั้งใจขายแต่สุดท้ายกลับซื้อและบางครั้งก็ไม่รู้ตัวว่าผิดพลาดจนกว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้น
หลังการเทรด
หลังจากซื้อ Bitcoin แล้วการรักษาความปลอดภัยของรหัสผ่านบัญชีหรือ private key ของกระเป๋าเงินดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งอย่าคลิกลิงก์ที่ไม่คุ้นเคย หรือหลงเชื่อคำกล่าวอ้างเรื่องผลตอบแทนสูงจากการฝากคริปโทเคอร์เรนซีและโอนสินทรัพย์ของคุณไปโดยไม่คิดไตร่ตรอง สรุปคือ ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ และสิ่งที่คุณปรารถนาอาจเป็นกับดักที่ผู้อื่นวางไว้ก็เป็นได้ นอกจากนี้ หลังจากซื้อ Bitcoin แล้ว ผู้เริ่มต้นมักจะเฝ้าติดตามกราฟแท่งเทียนอย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังว่าราคาจะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจของพวกเขาได้: พวกเขากังวลว่าราคาจะลดลงหลังจากที่ขึ้น ทำให้รีบขาย; จากนั้นก็กังวลว่าราคาจะเพิ่มขึ้นหลังจากขาย ทำให้ซื้อกลับคืน การซื้อขายหมุนเวียนเช่นนี้ไม่เพียงแต่สร้างค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเท่านั้น แต่ยังมักส่งผลให้ซื้อแพงขายถูกอีกด้วย
เนื้อหานี้ได้รับการแปลโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) และผ่านตรวจสอบโดยมนุษย์ มีไว้เพื่อการอ้างอิงและข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่การแนะนำการลงทุนแต่อย่างใด
