สัญญาซื้อขายล่วงหน้า TSX ปรับตัวสูงขึ้นหลังดัชนีถอยจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

Investing.com — สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เชื่อมโยงกับตลาดหลักทรัพย์หลักของแคนาดาปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี หลังจากที่ดัชนีถอยห่างจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ล่าสุดในการซื้อขายครั้งก่อนหน้า

ณ เวลา 06:43 น. (10:43 น. ตามเวลาไทย) สัญญาซื้อขายล่วงหน้ามาตรฐานดัชนี S&P/TSX 60 เพิ่มขึ้น 2 จุด หรือ 0.1%

ดัชนี S&P/TSX composite ของตลาดหลักทรัพย์โตรอนโตลดลง 214.46 จุด หรือ 0.8% ในวันพุธ ถอยห่างจากระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์และยุติการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 10 วัน

การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแคนาดาอายุ 10 ปีสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น นักลงทุนได้ลดการคาดการณ์ว่าธนาคารแห่งแคนาดาจะดําเนินการลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นถึงอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่สูงในเดือนเมษายน

การเคลื่อนไหวดังกล่าวยังสะท้อนถึงการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นท่ามกลางการถกเถียงเกี่ยวกับร่างกฎหมายภาษีและการใช้จ่ายขนาดใหญ่ที่อาจเพิ่มหนี้มหาศาลของสหรัฐฯ ที่มีมูลค่า 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ การประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปีที่ซบเซาได้ทําให้ความกังวลเหล่านี้รุนแรงขึ้น

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้นสหรัฐฯ ทรงตัว

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ซื้อขายในลักษณะทรงตัวในวันพฤหัสบดี ฟื้นตัวหลังจากการขายทํากําไรอย่างรุนแรงในวันก่อนหน้าเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับระดับหนี้สหรัฐฯ ที่สูง

ณ เวลา 06:56 น. สัญญาซื้อขายล่วงหน้า Dow Jones 30 ลดลง 33 จุด หรือ 0.1% ในขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S&P 500 เพิ่มขึ้น 7 จุด หรือ 0.1% และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า Nasdaq 100 เพิ่มขึ้น 44 จุด หรือ 0.2%

ดัชนีหลักปรับตัวลดลงในวันพุธ โดย Dow Jones Industrial Average ลดลงกว่า 800 จุด

ร่างกฎหมายภาษีเพิ่มความกังวลเรื่องหนี้

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะลงคะแนนเสียงก่อนรุ่งสางเกี่ยวกับร่างงบประมาณ "ใหญ่และสวยงาม" ของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยพรรครีพับลิกันที่มีอํานาจในสภาหวังที่จะเอาชนะความขัดแย้งภายในเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวที่ดําเนินมาหลายวัน

นอกจากการขยายการลดภาษีปี 2017 แล้ว ร่างกฎหมายนี้จะลดภาษีที่เรียกเก็บจากทิปและเงินกู้ซื้อรถยนต์ ในขณะเดียวกันก็เพิ่มการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงชายแดน การลดโครงการอาหารและสุขภาพที่สําคัญสําหรับชาวอเมริกันที่มีรายได้น้อยก็รวมอยู่ในร่างกฎหมายนี้ด้วย

Moody’s ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของหนี้สาธารณะสหรัฐฯ เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยอ้างถึงความล้มเหลวของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ผ่านมาในการควบคุมหนี้มหาศาลของประเทศ

การผ่านร่างกฎหมายภาษีได้กลายเป็นประเด็นความไม่แน่นอนที่สําคัญสําหรับตลาด ท่ามกลางความกังวลว่าการลดภาษีจะลดรายได้ของรัฐบาลกลางและเพิ่มการพึ่งพาหนี้ของรัฐบาลมากขึ้น

ประธานาธิบดีทรัมป์อ้างว่าภาษีศุลกากรของเขาจะช่วยแก้ไขการขาดดุลงบประมาณที่เกิดจากการลดภาษีของเขา แต่รายได้จากภาษีศุลกากรของเขาจนถึงขณะนี้มีเพียงเศษเสี้ยวของจํานวนที่จําเป็นในการปรับปรุงสถานะทางการคลังของรัฐบาล

น้ํามันดิบลดลงจากข่าวการเพิ่มกําลังการผลิตของ OPEC+

ราคาน้ํามันลดลงต่อเนื่องในวันพฤหัสบดีเนื่องจากความกังวลเรื่องอุปทานล้นตลาดอีกครั้ง หลังจากมีรายงานว่ากลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่กําลังพิจารณาเพิ่มระดับการผลิตอีกครั้ง

ณ เวลา 06:57 น. สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ํามัน Brent ลดลง 2.0% มาอยู่ที่ $63.63 ต่อบาร์เรล และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ํามันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ลดลง 2.1% มาอยู่ที่ $60.33 ต่อบาร์เรล

องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ํามันและพันธมิตร หรือที่รู้จักกันในนาม OPEC+ กําลังหารือกันว่าจะตกลงเพิ่มการผลิตครั้งใหญ่อีกครั้งในการประชุมวันที่ 1 มิถุนายนหรือไม่ ตามรายงานของ Bloomberg News เมื่อวันพฤหัสบดี

การเพิ่มกําลังการผลิต 411,000 บาร์เรลต่อวัน (bpd) สําหรับเดือนกรกฎาคมเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่อยู่ระหว่างการหารือ แม้ว่ายังไม่มีข้อตกลงสุดท้าย รายงานระบุโดยอ้างถึงผู้แทน

OPEC+ อยู่ในกระบวนการยกเลิกการลดกําลังการผลิต โดยมีการเพิ่มกําลังการผลิตในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน

ราคาทองคําปรับตัวลดลงเล็กน้อย

ราคาทองคําปรับตัวลดลงในการซื้อขายในยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดี ถอยจากการปรับตัวขึ้นล่าสุดเนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐที่คุกคามความน่าดึงดูดของทองคําจากผู้ถือเงินตราต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยยังคงได้รับแรงหนุนจากความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับระดับหนี้สหรัฐฯ ที่สูงและการผ่านร่างกฎหมายภาษีของทรัมป์

ราคาทองคําในตลาดสปอตลดลง 0.8% มาอยู่ที่ $3,289.86 ต่อออนซ์ ในขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคําสําหรับเดือนมิถุนายนลดลง 0.7% มาอยู่ที่ $3,288.64 ต่อออนซ์ ณ เวลา 06:58 น.

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน