สัญญาซื้อขายล่วงหน้าสหรัฐฯ ลดลงหลัง Nvidia เตือนผลกระทบด้านเทคโนโลยี; ความกังวลเรื่องภาษียังคงอยู่

Investing.com — สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงในช่วงเย็นวันอังคาร โดยหุ้นเทคโนโลยีลดลงมากที่สุดหลังจาก Nvidia ผู้นําด้านปัญญาประดิษฐ์ระบุว่าจะได้รับผลกระทบอย่างมากต่อกําไรจากการที่รัฐบาลเข้มงวดการส่งออกไปยังจีน

ตลาดโดยรวมได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนที่ยังคงอยู่เกี่ยวกับแผนการของประธานาธิบดี Donald Trump ในการเพิ่มภาษีการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเภสัชภัณฑ์ สงครามการค้าที่ดําเนินอยู่ระหว่าง Trump กับจีนยังคงทําให้นักลงทุนกังวล

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าปรับตัวลดลงหลังจากตลาดวอลล์สตรีทปิดในแดนลบเล็กน้อย เนื่องจากความหวังเกี่ยวกับการพักการเก็บภาษีของ Trump ชั่วคราวได้หมดลง ในขณะที่ตลาดยังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับแผนการเก็บภาษีเพิ่มเติมของเขา

การรอคอยผลประกอบการไตรมาสแรกเพิ่มเติม รวมถึงสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงทําให้ความอยากเสี่ยงของนักลงทุนอยู่ในระดับจํากัด

สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S&P 500 ลดลง 0.8% มาอยู่ที่ 5,384.0 จุด ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า Nasdaq 100 ลดลง 1.3% มาอยู่ที่ 18,718.75 จุด ณ เวลา 19:47 สัญญาซื้อขายล่วงหน้า Dow Jones 30 ลดลง 0.4% มาอยู่ที่ 40,414.0 จุด

Nvidia ดิ่งลงหลังประกาศค่าใช้จ่าย 5.5 พันล้านดอลลาร์ หุ้นเทคโนโลยีปรับตัวลดลงตาม

NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA) ร่วงลง 6% ในการซื้อขายหลังเวลาทําการ หลังจากบริษัทผู้นําด้านปัญญาประดิษฐ์ระบุว่ารัฐบาลได้จํากัดการส่งออกชิป H20 ไปยังจีนเพิ่มเติม

บริษัทจะต้องขอใบอนุญาตเพื่อส่งออกชิป H20 ไปยังจีน ชิป H20 เป็นชิปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ Nvidia ในจีน และถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับการควบคุมการส่งออกก่อนหน้านี้ที่กําหนดโดยรัฐบาล Biden

การประกาศของ Nvidia สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้ผลิตชิปและหุ้นเทคโนโลยีอื่นๆ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการจํากัดการส่งออกไปยังจีนเพิ่มเติม ซึ่งกําลังอยู่ในสงครามการค้าที่รุนแรงกับวอชิงตัน

ผู้ผลิตชิปและหุ้นกลุ่ม AI อื่นๆ ปรับตัวลดลงหลังการประกาศของ Nvidia Intel Corporation (NASDAQ:INTC) และ Broadcom Inc (NASDAQ:AVGO) ลดลง 1.9% และ 3.4% ตามลําดับ ในขณะที่ซัพพลายเออร์รายใหญ่ของ Nvidia อย่าง TSMC (NYSE:TSM) ลดลง 2%

คู่แข่งของ Nvidia อย่าง AMD (NASDAQ:AMD) ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับข้อจํากัดที่คล้ายกัน ลดลงเกือบ 7%

การลดลงของผู้ผลิตชิปสร้างความตื่นตระหนกให้กับภาคเทคโนโลยีในวงกว้าง โดยบริษัทใหญ่ๆ เช่น Apple (NASDAQ:AAPL) และ Tesla (NASDAQ:TSLA) สูญเสียมากกว่า 1% ต่อบริษัท นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนต่อห่วงโซ่อุปทานด้านเทคโนโลยี โดยความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้นอาจนํามาซึ่งอุปสรรคเพิ่มเติม

วอลล์สตรีทได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางการค้า; รอผลประกอบการและข้อมูลเศรษฐกิจ

ดัชนีวอลล์สตรีทปิดลดลงเล็กน้อยในวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับแผนการของ Trump ในการเพิ่มภาษีการค้า สงครามการค้าที่รุนแรงระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาด โดย Trump ระบุว่าขณะนี้เป็นโอกาสของจีนที่จะเริ่มการเจรจา

ตลาดกังวลว่าสงครามการค้าที่ยืดเยื้อจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและอาจทําให้เกิดภาวะถดถอยในปีนี้

S&P 500 ลดลง 0.2% มาอยู่ที่ 5,396.60 จุด ขณะที่ NASDAQ Composite ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 16,823.17 จุด Dow Jones Industrial Average ลดลง 0.4% มาอยู่ที่ 40,368.96 จุด

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการไตรมาสแรกที่เป็นบวกบางส่วนช่วยหนุนวอลล์สตรีทในช่วงที่ผ่านมา บริษัทอื่นๆ อีกหลายแห่งมีกําหนดรายงานผลในวันต่อๆ ไป โดยผู้ผลิตชิปรายใหญ่อย่าง ASML Holding NV (AS:ASML) บริษัทเภสัชภัณฑ์ Abbott Laboratories (NYSE:ABT) และบริษัทประกันภัย Progressive Corp (NYSE:PGR) มีกําหนดรายงานผลในวันพุธ

ในด้านเศรษฐกิจ ข้อมูลยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ มีกําหนดเผยแพร่ในวันพุธ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ Jerome Powell ยังมีกําหนดกล่าวสุนทรพจน์ในภายหลังของวัน

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน