วันจันทร์ดำหรือการฟื้นตัวอย่างรุนแรง?

Investing.com6 เม.ย. 2025 เวลา 14:03

Investing.com — หลังจากตลาดหุ้นดิ่งลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเป็นเวลาสองวันหลังการประกาศภาษีนําเข้าในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนกําลังรู้สึกกังวลอย่างมากก่อนการเปิดการซื้อขายในวันจันทร์ บางคนเห็นสัญญาณของเหตุการณ์แบบวันจันทร์ดําปี 1987 ในขณะที่คนอื่นๆ มองว่าการเทรดที่ง่ายที่สุดคือการเข้าซื้อโดยหวังว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะประกาศชะลอการตอบโต้ด้านภาษีหรือ "ข้อตกลงใหญ่" บางอย่าง

จิม เครเมอร์ นักวิเคราะห์ตลาดชื่อดังกล่าวในรายการ Mad Money ของ CNBC เมื่อคืนวันศุกร์ว่า หากทรัมป์ "ไม่พยายามที่จะเอื้อมมือออกไปและให้รางวัลกับประเทศและบริษัทที่เล่นตามกฎ สถานการณ์แบบปี 1987... ที่เราดิ่งลงสามวันและลดลง 22% ในวันจันทร์ก็มีความเป็นไปได้มากที่สุด"

เครเมอร์ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมบน X โดยกล่าวว่าแม้เขาไม่ต้องการให้เกิดการครอบแบบปี 1987 แต่รูปแบบนั้นคล้ายคลึงกันอย่างน่ากลัว "ฟังนะ ผมไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซ้ํารอยปี '87 แน่นอน" เครเมอร์กล่าว "แต่ผมเทรดในช่วงนั้นและจําแต่ละวันได้ดี... เรารู้ว่าต้องขาย... และเราภูมิใจที่ทําแบบนั้น แต่เรารู้สึกเหมือนคนโง่เพราะสัปดาห์ก่อนตลาดครอบนั้นแย่มากและเราขายช้าเกินไป"

นักวิเคราะห์ตลาดรายนี้ยังเสริมว่าระบบเบรกเกอร์ของตลาดหุ้นอาจช่วยชะลอสถานการณ์ได้ ซึ่งต่างจากปี 1987

ในอีกด้านหนึ่งของสถานการณ์วันจันทร์ บิล แอคแมน ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ชื่อดังกล่าวว่า โทรศัพท์ของทรัมป์น่าจะดังไม่หยุดและมีเวลาน้อยในการทําข้อตกลงก่อนถึงกําหนดเส้นตาย 9 เม.ย. เขา "จะไม่แปลกใจถ้าตื่นมาในวันจันทร์แล้วมีประกาศจากประธานาธิบดีว่าเขากําลังเลื่อนการบังคับใช้ภาษีนําเข้าเพื่อให้เวลาในการทําข้อตกลง" ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์เสริมว่าทรัมป์ได้ "ดึงความสนใจจากทั่วโลกแล้ว"

มาร์โก โคลาโนวิช อดีตหัวหน้านักกลยุทธ์ของ JP Morgan คิดว่าความเสี่ยงคือการขายชอร์ตก่อนถึงวันจันทร์

"ตอนนี้ทรัมป์ทําให้ทุกคนเชื่อว่าเขาบ้าและพร้อมสําหรับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก" โคลาโนวิชกล่าว "เป็นการบลัฟฟ์และต่อไปคือการ 'ทําข้อตกลง' เขาจะได้รับแรงกดดันในช่วงสุดสัปดาห์ ตรงข้ามกับสัปดาห์ที่แล้ว (ที่ผมได้โพสต์ไว้) ความเสี่ยงตอนนี้คือการขายชอร์ตในช่วงสุดสัปดาห์"

เนื่องจากตลาดอยู่ในมือของทรัมป์ ซึ่งสามารถเปลี่ยนใจได้ทุกเมื่อ อดีตนักกลยุทธ์กล่าวว่า "ความเสี่ยงในการบีบชอร์ตขาขึ้นในระยะใกล้นั้นมีมากกว่าความเสี่ยงขาลง"

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน